โดย : มูลนิธิศูนย์คุ้มครองสิทธิด้านเอดส์
เมื่อ : 17-Oct-2019
ชื่นชอบ 0 ครั้ง
เครือข่ายพนักงานบริการประเทศไทย นัดรวมตัวเรียกร้องให้แก้ไขปัญหาความเข้าใจของสังคมต่อพนักงานบริการ และยอมรับในสิทธิและศักดิ์ศรี ของพนักงานบริการ
สำหรับการเคลื่อนไหวเครือข่ายพนักงานบริการประเทศไทยในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลการแก้ไขปัญหาในกลุ่มพนักงานบริการ ความเข้าใจใหม่ให้กับสังคม และยอมรับในสิทธิและศักดิ์ศรีของพนักงานบริการ บนฐาฯคิดที่ว่า พนักงานบริการ คือ ลูกจ้าง งานบริการคือ อาชีพ และที่สำคัญคือ การยุติการเอาผิดกฎหมายอาญากับพนักงานบริการ โดยเครือข่ายพนักงานบริการมีข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหาทั้งหมด 6 ข้อด้วยกัน ได้แก่
1. ยกเลิกพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ปรามปรามการคำประเวณี พ.ศ. 2539
2. หยุดการจับกุม ล่อซื้อกับพนักงานบริการ ในความผิดจากการค้าประเวณีตามที่รัฐได้รับรองในระดับนานาชาติ
3. ตั้งคณะทำงานที่มีภาครัฐ, เอกชนและตัวแทนพนักงานบริการ รวมถึงตัวแทนผู้ประกอบการ นักวิชาการด้าน นักกฎหมาย ทำการศึกษาทบทวนยกเลิกการเอาผิดกับคนทำงานบริการทางเพศต่อไป และพิจารณาข้อจำกัดบางประการของกฎหมายที่มีบังคับใช้อยู่แล้ว
4. ตั้งคณะในการติดตาม บังคับใช้กฎหมายคุ้มครองแรงงาน ตามข้อเสนอ CEDAW ปี 2017 กับสถานบริการ
5. ตั้งคณะทำงานติดตามการจัดสภาพการทำงาน เงื่อนไขการทำงาน ให้พนักงานบริการสามารถใช้สิทธิตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน
6. สนับสนุนจัดตั้งกองทุนให้พนักงานบริการสามารถเข้าถึงการศึกษา และการพัฒนาอาชีพที่ทันสมัย


ต่อมา ณ วันที่ 17 ตุลาคม 2562
ตัวแทนเครือข่ายพนักงานบริการ นักกิจกรรมเพื่อสิทธิมนุษยชน นักกิจกรรมเพื่อสิทธิของผู้มีความหลากหลายทางเพศ ตัวแทนองค์กรจากภาคประชาสังคม และปรัะชาชนผู้มาร่วมแสดงเจตนารมณ์ มารวมตัวเวลา 11.30 น. ที่รัฐสภาใหม่ สัปปายะสภาสถาน
สีแยกเกียกกาย ระหว่างถนนทหารกับถนนสามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมาหานคร
และเข้าไปยื่นหนังสือในเวลา 12.00 น. โดยมีการแถลงการ นำโดย คุณวรกร โชติกิจวานิชกุล ตัวแทนเครือข่ายพนักงานบริการ เรียกร้องต่อรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาให้กับพนักงานบริการที่ถูกเอาเปรียบจากเงื่อนไขการทำงานในสถานบริการ
โดยตัวแทนจากฝั่งภาครัฐ คือ คุณมุกดา พงษ์สมบัติ ประธานคณะกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศสภาผู้แทนราษฎร รับหนังสือไว้พร้อมรับว่าจะนำข้อเรียกร้อง รวมถึงข้อเสนอแนะไปใช้ปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง ที่นี่
ขอขอบคุณภาพข่าวจาก workpointnews.com